เรื่องนี้คล้ายๆกับคนที่ชอบถือฤกษ์ ถือยาม เช่นกัน มัวคอยเเต่ ดวงดาว ชะตา ความฝัน พรหมลิขิต
ดูหมด ดูดวง แต่ไม่ยอมทำอะไร นอนขี้เกียจอยู่อย่างนั้น ไม่พัฒนาตัวเอง แล้วสิ่งที่หวังจะสำเร็จได้อย่างไร เลยขอยก เรื่องนี้ มาให้อ่านกัน
เรื่องของฤกษ์ยาม จากพระพุทธวจนะ
ประโยชน์ของฤกษ์ ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภเรื่องประโยชน์ของฤกษ์ เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่ง มีชาวบ้านนอกคนหนึ่ง ไปขอสาวในเมืองสาวัตถีให้ลูกชายของตน พร้อมกำหนดนัดวันแต่งงานไว้แล้ว ครั้นถึงวันแต่งานได้ไปสอบถามฤกษ์กับนักบวชอ...าชีวกว่าดีหรือไม่ นักบวชอาชีวกโกรธที่เขาไม่ได้มาปรึกษาก่อนในคราวแรกจึงพูดว่า " วันนี้ฤกษ์ไม่ดี ท่านอย่ากระทำการมงคลใดๆ ขืนทำลงไปจะเกิดความพินาศ " พวกเขาพากันเชื่ออาชีวกจึงไม่ได้ไปรับตัวเจ้าสาวในวันนั้น ฝ่าย ชาวเมืองสาวัตถีได้จัดเตรียมงานมงคลไว้พร้อมเพรียงแล้ว แต่ไม่เห็นพวกเจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวสักที จึงตกลงกันว่า " พวกนั้น กำหนดนัดวันนี้แล้วกลับไม่เห็นมา งานของพวกเราก็ใกล้จะเสร็จแล้ว พวกเราจะยกลูกสาวให้คนอื่นไปเสีย " จึงได้จัดงานแต่งงานด้วยมงคลที่ได้เตรียมไว้แล้วนั้น ในวันรุ่งขึ้นพวกบ้านนอกที่ขอไว้ก็มาถึง ทันทีที่เห็นหน้ากันพวกชาวเมืองก็พากันด่าพวกบ้านนอกว่า " พวกท่านสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นคนบ้านนอก ขาดความเป็นผู้ดี กำหนดนัดวันไว้แล้ว กลับไม่มาตามนัด เชิญกลับไปตามทางที่มานั้นแหละ พวกเรายกเจ้าสาวให้คนอื่นไปแล้วละ " พวกชาวบ้านนอกจึงทะเลาะกับชาวเมืองด้วยเหตุอันนี้ เรื่องที่อาชีวกทำลายงานมงคลของผู้คนเป็นที่ทราบกันไปทั่ว แม้กระทั่งภิกษุในวัด ในเย็นของวันหนึ่ง พวกภิกษุประชุมกันในธรรมสภาถามเรื่องประโยชน์ของฤกษ์แก่พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงตรัสเป็นพระคาถาว่า"ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลาที่มัวรอคอยฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์นั่นแหละเป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวทั้งหลายจักทำอะไรได้ " เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะทำกิจการใดๆ ไม่ควรคอยฤกษ์ยาม นะครับ...
(หลายปีมาแล้วเจ้าของบล้อก ก็ตาสว่างจากคำของพระพุทธเจ้าคำนี้นั้นแหละ)
ขอบคุณที่มา http://pha.narak.com จาก http://mblog.manager.co.th/chanpanakrit2/th-86157/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ