(ปาณาติปาตา เวรมณี) เธอนั้น ละปาณาติบาต
เว้นขาดจากปาณาติบาต (ฆ่าสัตว์) วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่.
(อทินนาทานา เวรมณี) เธอนั้น ละอทินนาทาน
เว้นขาดจากอทินนาทาน (ลักทรัพย์) ถือเอาแต่ของที่เขาให้แล้วหวังอยู่แต่ของที่เขาให้ ไม่เป็นขโมย มีตนเป็นคนสะอาดเป็นอยู่.
(อพรฺหมฺจริยา เวรมณี) เธอนั้น ละกรรมอันไม่ใช่
พรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์โดยปกติ ประพฤติห่างไกลเว้นขาดจากการเสพเมถุนอันเป็นของชาวบ้าน.
(มุสาวาทา เวรมณี) เธอนั้น ละมุสาวาท เว้นขาด
จากมุสาวาท พูดแต่ความจริง รักษาความสัตย์ มั่นคงในคำพูด มีคำพูดควรเชื่อถือได้ ไม่แกล้งกล่าวให้ผิดต่อโลก.
(สุราเมระยะมัชชะปมาทัฏฐานา เวรมณี) เธอนั้น
เว้นขาดจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งของความประมาท.
(วิกาละโภชนา เวรมณี) เธอนั้น เป็นผู้ฉันอาหาร
วันหนึ่งเพียงหนเดียว เว้นจากการฉันในราตรีและวิกาล.
(นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา เวรมณี) เธอนั้น
เป็นผู้เว้นขาดจากการฟ้อนรำ การขับร้อง การประโคมและการดูการเล่นชนิดเป็นข้าศึกแก่กุศล.
(มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะมัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานาเวรมณี) เธอนั้น เป็นผู้เว้นขาดจากการประดับประดา คือ ทัดทรงตกแต่งร่างกายด้วยมาลา ของหอมและเครื่องลูบทา.
(อุจจาสะยะนะมหาสะยะนา เวรมณี) เธอนั้น เป็น
ผู้เว้นขาดจากการนอนบนที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จการนอนบนที่นอนอันต่ำ.
ติก. อํ. ๒๑/๒๗๑/๕๑๐.
![]() |
ขอร่วมเผยแผ่พุทธวจน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ