จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

เรื่องเล่าแง่คิดคติสอนใจ วิถีชีวิตคน บนวิถีชีวิตนกอินทรีย์


ข้อคิดชีวิตคน บนวิถีชีวิตแห่งนกอินทรี

                                 นก อินทรีเป็นสัตว์ปีกที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก มันมีอายุยาวนานถึง 70 ปี เมื่อเอ่ยถึงนกอินทรี เราก็จะต้องนึกถึงความยิ่งใหญ่ สง่างามขณะที่มันบินอยู่บนท้องฟ้า  สาย ตาอันแหลมคม ยาวไกล กรงเล็บอันแข็งแกร่ง ทรงพลัง ความรวดเร็วเด็ดขาดในการจับเหยื่อ มันเป็นนกที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่านกใดๆ ทั้งมวลที่มีอยู่ในโลกนี้ ประเทศอภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่เยอรมันนี ยังถือเอานกอินทรีเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศเลยทีเดียว
                                แต่ ทว่าจะมีใครทราบหรือไม่ว่านกอินทรีนั้นจะมีช่วงชีวิตอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งยาก ลำบาก และทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เป็นช่วงชีวิตที่เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีชีวิตของมัน นั่นก็คือช่วงที่มันมีอายุได้ 40 ปี เพราะในช่วงอายุนี้ ปากของมันจะงองุ้ม จะจิก จะกินอะไรก็ทำได้ยากยิ่ง ส่วนเล็บของมันก็จะยาวและโค้งงอ เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการจะจับสัตว์กินเป็นอาหารได้เหมือนเดิม สำหรับปีกอันงามสง่าของมันก็จะเกิดขนปกคลุมจนหนา และหนัก ทำให้การบินของมันแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความยากลำบากและเชื่องช้ายิ่ง ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานนี้ กินเวลายาวนานถึง 150 วัน หรือประมาณ 5 เดือนเศษ !
                                ใน สภาวะอันทุกข์ทรมานนี้ มันมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือ หนึ่ง ฆ่าตัวตายเสียเพื่อยุติความทุกข์ทรมานนั้น และสองอดทนฟันฝ่าด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวเพื่อจะมีชีวิตใหม่ให้ได้!
                                เมื่อ มันเลือกทางที่หนึ่ง มันก็สามารถทำได้ด้วยการเอากรงเล็บปาดคอตัวเองเพื่อจบชีวิตของมันลงเสีย หรือมิฉะนั้นก็ไม่ต้องทำอะไร เพียงอยู่เฉยๆ แล้วนอนรอความตายที่กำลังจะมาถึง ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็ว ภายในไม่เกิน 150 วันนั้น
                                แต่ หากมันเลือกหนทางที่สอง มันต้องพยายามอีกครั้งที่จะบินขึ้นสู่ภูเขาสูง และ ณ ที่นั้น มันต้องเคาะปากของมันกับหินเป็นร้อยเป็นพันครั้ง แม้จะเจ็บปวดปานใด มันก็ต้องทนให้ได้ เพื่อให้จงอยปากของมันหลุดร่อนออกมา จากนั้นมันก็ต้องเคาะเล็บของตนเองที่งองุ้มนั้นกับหินแข็งๆ ให้เล็บหลุดออกมาทีละเล็บ จนกระทั่งเล็บหลุดออกมาจนหมด และมันต้องจิกขนที่หนาเตอะ ทั้งที่อก ที่ปีก ออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนขนที่หนาเตอะเหล่านั้นหลุดร่วงหายไป แน่นอนว่ากระบวนการเหล่านี้ จะต้องกินเวลานาน และเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส สากรรจ์ กระบวนการดังกล่าวจะเริ่มอย่างช้าๆ และต่อเนื่องไป จนสิ้นสุดลงเมื่อครบ 150 วัน!
                                ถ้า มันสามารถผ่านกระบวนการอันยากลำบากนั้นมาได้ รางวัลของมันก็คือ ปากที่จะงอกออกมาใหม่ซึ่งแข็งแกร่งและสวยงามกว่าเดิม เล็บที่งอกออกมาใหม่ซึ่งแข็งแรง แหลมคม สวยงามกว่าเดิม เหมาะอย่างยิ่งกับภาระกิจการล่าที่มันถนัด และของขวัญล้ำค่าที่สุดที่ถ้าหากมันผ่านกระบวนการนี้ไปได้ก็คือ มันจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้อีกถึง 30 ปี!! เป็นชีวิตอีก 30 ปีที่แข็งแกร่งกว่าเดิม สง่างามกว่าเดิม ทรงพลังกว่าเดิม ปรากฏตัวบนท้องฟ้าได้อย่างยิ่งใหญ่และมีเกียรติมากกว่าเดิม!
                                มี นกอินทรีหลายตัวจำนวนมากที่สามารถผ่านบททดสอบนี้ และก็มีนกอินทรีอีกจำนวนมหาศาลเช่นกัน ที่แม้จะตัดสินใจเลือกที่จะมีชีวิตใหม่ด้วยทางเลือกที่สองนั้น แต่ก็ต้องตายไปขณะอยู่ในกระบวนการทดสอบอันหฤโหด 150 วันนี้ ส่วนนกอินทรีที่เลือกทางเลือกแรกข้างต้นนั้น ตายหมดทุกตัวภายใน 150 วันนั้นอยู่แล้ว!!
                                หลายคนเชื่อว่าวิถีชีวิตแห่งนกอินทรีนี้ อาจเป็นที่มาของเรื่องราวปรัมปราว่าด้วย นกฟีนิกซ์ ในตำนานความเชื่อของชนชาวกรีกโบราณ นกฟีนิกซ์นี้ได้ชื่อว่าเป็นนกที่มีชีวิตอันอมตะซึ่งไม่มีวันตาย (เพราะเมื่อตายแล้วก็ยังสามารถฟื้นคืนชีวิตได้ทุกครั้งไป!)
                                หาก มองวิถีชีวิตของคนเราผ่านวิถีชีวิตแห่งนกอินทรีแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งนกอินทรีและมนุษย์เรามีช่วงชีวิตพอๆ กัน คือประมาณ 70 ปี และคำกล่าวของพวกฝรั่งที่ว่า ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 ปี!” นั้น ก็อาจมีนัยสำคัญเทียบเคียงกับวิถีชีวิตของนกอินทรีก็เป็นได้?
                                แต่ไม่ว่าจะ 30 หรือ 40 หรือ 50 ปี คนเราก็จะต้องมีช่วงเวลาที่สำคัญ อันเป็นช่วง เปลี่ยนผ่าน (Transforming) อยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเวลาใดในช่วงระยะเวลานั้นกันทั้งสิ้น เป็นการเปลี่ยนผ่านเพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่คนคนใหม่ คุณภาพใหม่ คุณค่าใหม่ ที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ซึ่งบางครั้ง สำหรับบางคน อาจเรียกได้ว่าเป็นการ เกิดใหม่ อีกครั้งหนึ่งได้เลยทีเดียว ซึ่งนี่ก็ต้องอาศัยเจตนารมณ์ที่ใหญ่ยิ่ง อาศัยความกล้าหาญอย่างยิ่ง อาศัยความมุ่งมั่น ความอดทนอย่างยิ่ง อาจต้องลืมอดีตให้หมดสิ้น ทิ้งความเชื่อเก่าๆ ทิ้งความเคยชินเก่าๆ ทิ้งอุปนิสัยเก่าๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่คนใหม่ได้อย่างแท้จริง ยังไงผมก็ยังชอบคำกล่าวๆ หนึ่งที่ว่า อยากมีชีวิตใหม่ ก็จงอย่าใช้ชีวิตแบบเดิม!” และคำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ว่า การทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยหวังว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากเดิมนั้น นับว่าเป็นความวิกลจริตชนิดหนึ่ง!”
                                 คน บางคนนั้น แม้อาจมีอายุยืนยาวถึง 70-80 ปี แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ใดในชีวิต ไม่มีการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตมีคุณค่ามากยิ่งขึ้นกับโลกใบ นี้ ก็อาจกล่าวได้ว่า ความจริงแล้วคนๆ นั้น ได้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่อายุได้ราว 20 ปีเท่านั้น เพียงแต่ว่างานศพของเขาอย่างเป็นทางการนั้น ค่อยไปจัดเอาหลังจากนั้นอีกราว 50-60 ปี เท่านั้นเอง!!

ขอบคุณที่มาจาก  http://www.ajarnvason.com/index.php?mo=3&art=478683

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น