พระมหากษัตริย์ กับ ผู้ถือหุ้นบริษัท
เจ้าของประเทศ กับ เจ้าของบริษัท
ตอนที่ 2 “กษัตริย์ทรงปกเกล้าแต่ไม่ทรงปกครอง””
……………………………………….…………………………….
บทบาทของพระมหากษัตริย์
• เป็นประมุขของชาติ
• เป็นที่เคารพสักการะสูงสุด
• เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน
• เป็นสัญลักษณ์แห่งความต่อเนื่องของชาติ
• พระมหากษัตริย์ มีส่วนสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและทำให้การบริหารงานประเทศเป็นไปด้วยดี
……………………………………….…………………………….
อำนาจทางการเมืองของพระมหากษัตริย์
• ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านรัฐสภา
• ทรงใช้อำนาจการบริหารผ่านคณะรัฐมนตรี
• ทรงใช้อำนาจตุลาการผ่านทางศาล
ซึ่งภาษากฎหมายอาจทำให้ชาวบ้านตาสีตาสาเข้าใจว่า พระมหากษัตริย์มีอำนาจทางการเมืองเต็มรูปแบบ
แต่ความจริง พระมหากษัตริย์ไม่ได้มีอำนาจทางการเมืองจริง อำนาจทางการเมืองเหล่านั้นเป็นของรัฐสภา รัฐบาลและศาล ซึ่งเป็น 3 สถาบันหลักในระบอบประชาธิปไตยที่มีอำนาจและหน้าที่ในบริหารงานราชการแผ่นดิน
……………………………………….…………………………….
บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับประชาธิปไตยของพระมหากษัตริย์
• ทรงยอมรับและอุ้มชูระบอบประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ได้ต่อเนื่อง
• ทรงช่วยแนะนำรัฐบาลด้านการปกครองยามจำเป็น
• ทรงช่วยยับยั้งเหตุการณ์รุนแรงให้ผ่อนคลาย
• ทรงใช้อำนาจอธิปไตยในนามของประชาชนชาวไทย
• ทรงเป็นกลางทางการเมือง
……………………………………….…………………………….
บทบาทที่เกี่ยวกับประชาชนของพระมหากษัตริย์
• ออกเยี่ยมเยียนราษฎร ช่วยเหลือ และห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎร
• สร้างความเป็นปึกแผ่นของคนภายในชาติ
• มีบทบาทในการช่วยพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทำให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ดีขึ้น
……………………………………….…………………………….
สรุป
จะเห็นได้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมาย แต่อยู่เหนือการเมือง
• อยู่ใต้กฎหมาย คือ ทรงมีบทบาทและหน้าที่ ตามที่กฎหมายกำหนด
• อยู่เหนือการเมือง คือ ทรงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่ฝักใฝ่หรือสนับสนุนฝ่ายการเมืองใด และไม่ทรงมีอำนาจและหน้าที่ใดๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน
ซึ่งทั้งหมดนี้แปลเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า…
ความผิดพลาดในการบริหารราชการแผ่นดินหรือการฉ้อราษฎร์บังหลวง นั้นเกิดจากการบริหารงานของนักการเมืองและการทำงานของข้าราชการ ภายใต้ 3 สถาบันหลักในระบอบประชาธิปไตย อันประกอบด้วยรัฐสภา รัฐบาลและศาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจและหน้าที่ในบริหารงานราชการแผ่นดิน ไม่ใช่พระมหากษัตริย์
________________________________________
“เจ้าของบริษัท”
“ผู้ถือหุ้น คือเจ้าของธุรกิจ”ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยถือครองหุ้นจำนวนหนึ่งหุ้นหรือมากกว่านั้น ในบริษัทมหาชนหรือบริษัทเอกชนตามสัดส่วนของจำนวนหรือมูลค่าของหุ้น
โดยทั่วไปแล้วสิทธิทางกฎหมายของผู้ถือหุ้นจะประกอบด้วย 6 ประการ คือ
• สิทธิในการรับเงินปันผล
• สิทธิในการเป็นเจ้าของธุรกิจ
• สิทธิในการลงคะแนนเสียงและตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเลือกกรรมการบริษัท การเลือกผู้บริหาร
• สิทธิในการได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินของธุรกิจ
• สิทธิในการกล่าวโทษหรือฟ้องร้องบริษัทและเจ้าหนี้
• สิทธิในการซื้อขาย โอน หรือรับโอนหุ้นกับผู้ถือหุ้นอื่น
________________________________________
โดยทางกฎหมาย “ผู้ถือหุ้น คือเจ้าของธุรกิจ” จะไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ของบริษัท
……………………………………….…………………………….
“ผู้บริหารบริษัท”
กรรมการผู้จัดการ (MD) ในระบบอังกฤษ หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในระบบอเมริกัน คือ ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในบริษัทเอกชนหรือมหาชน
ในกรณีที่นิติบุคคล(บริษัทเอกชนหรือมหาชน)กระทำความผิดกฎหมาย ให้ถือว่ากรรมการหรือกรรมการผู้จัดการหรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับนิติบุคคลนั้น
……………………………………….…………………………….
สรุป
ผู้ถือหุ้นของบริษัท ไม่มีหน้าที่การบริหารธุรกิจ และไม่ต้องรับผิดต่อการคอร์รัปชั่นหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการของบริหารธุรกิจ และกรรมการผู้บริหารบริษัทคือผู้รับผิดชอบต่อการบริหารและการดำเนินธุรกิจ
ในทำนองเดียวกัน พระมหากษัตริย์ (หรือแม้แต่ประชาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ ไม่มีหน้าที่การบริหารราชการแผ่นดิน และไม่ต้องรับผิดในการฉ้อราษฎร์บังหลวงหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการบริหารราชการแผ่นดิน และนักการเมืองและข้าราชการคือผู้รับผิดชอบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
________________________________________
หลักการสำคัญประการหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข คือ การแยกประมุขของรัฐ (Head of State) อันได้แก่พระมหากษัตริย์ ออกจากหัวหน้ารัฐบาล (Head of government) อันได้แก่นายกรัฐมนตรี
พระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ของประเทศ รัฐบาล รัฐสภา และศาล (ในภาวะปกติ) หรือคณะปฏิวัติ รัฐประหาร (ในภาวะไม่ปกติ) คือผู้ใช้อำนาจอย่างแท้จริงในนามของกษัตริย์
และเป็นผู้ใช้อำนาจเหล่านั้นนั่นเองที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำของตน
“กษัตริย์ไม่ทรงต้องรับผิด” หรือ “The king can do no wrong” ที่ว่า “no wrong” เพราะ “The king” ไม่ได้ทำอะไรเลยจึง “no wrong”
ไม่ได้ทำอะไรเลย ที่หมายถึง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในทางการเมืองและในการบริหารราชการแผ่นดินไหว
สมดังคำกล่าวที่ว่า “กษัตริย์ทรงปกเกล้าแต่ไม่ทรงปกครอง”
โปรดติดตามตอนต่อไป
……………………………………….…………………………….
อัษฎางค์ ยมนาค
ตอนที่ 1 : https://www.facebook.com/1234993066616474/posts/4191955487586869/?d=n
……………………………………….…………………………….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ