จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรื่อง ธรรมมะ ความทุกข์ที่ของสตรีที่ธรรมชาติมอบให้ติดตัวมา เพศแม่ที่ควรให้เกียจติ


ความทุกข์ที่ของสตรี คำว่าแม่นี้ยิ่งใหญ่ ผู้ไม่เคารพ ผู้บังเกิดเกล้า จะหาบุญดีความเจริญได้จากไหน
จะทำบุญไว้พระทำไม ไหว้พระพทธเจ้าทำไม เพราะผู้ที่เป็นบุญเริ่มแรก  คือ พ่อ แม่ เราควรจะตอบแทนอย่างหน้าที่ของบุตร
ให้ดีที่สุด อย่างผู้มีปัญญาจะให้สิ่งที่ดีแก่ท่าน ในเรื่อง สัมมาทิฐฐิ นั้นก็ดี ดูแล กายท่าน ใจท่านอย่างที่ทำได้อย่างคุ่มค่าให้ท่านมีใจ แห่งความสุข อันความถูกต้องของเราในฐานะ บุตร

ดูเป็นเรื่องที่น่าสงสารชีวิตของลูกผู้หญิงเสียเหลือเกิน การเกิดมาของสตรีเพศ ได้รับความทุกข์โดยธรรมชาติของความเป็นหญิง และต้องได้รับความทุกข์ความกดดันจากประเพณีและวัฒนธรรมอีก ใครบ้างหนอที่จะพอเข้าใจถึงการได้เกิดมาเป็นลูกผู้หญิงบ้าง
ความทุกข์ที่ของสตรีที่ธรรมชาติมอบให้ติดตัวมา ๑. ทุกข์เพราะมีฤดู ๒. ทุกข์เพราะต้องจากสกุลของตนไปสู่สกุลของสามี ๓. ทุกข์เพราะต้องบำเรอสามี ๔. ทุกข์เพราะตั้งครรภ์ ๕. ทุกข์เพราะการคลอดบุตร
ผู้หญิงเมื่อก้าวเข้าวันของความเป็นสาว ความเปลี่ยนแปลงของทางร่างกายก็ปรากฎผิดไปจากเดิมโดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันจะไม่ทราบก็คือการมีประจำเดือนหรือมีฤดู ซึ่งมีอยู่ทุกๆ ๒๘ วัน การฤดูหรือรอบเดือนนั้น เป็นความทุกข์ของสตรี ที่ไม่สามารถที่หลีกเลี่ยงได้ ทั้งอารมณ์สุขภาพร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง จะรู้สึกหงุดหวิด ป่วยไข้ไม่สบาย
ผู้หญิงเมื่อถึงคราวแต่งงานมีเย้ามีเรือน ต้องจากสกุลตัวเองจากครอบครัววที่อบอุ่นของตัวไปอยู่กับชายสามีของตน จะต้องปรนนิบัติสามีของตนและญาติผ่ายสามีเป็นต้นว่าพ่อแม่ของสามี เราอาจทำอะไรไม่ถูกใจท่าน บางครั้งก็ถูกดุด่าเกิดความทุกข์ขึ้น บางครอบครัวสะใภ้กับแม่สามีจะไม่ค่อยลงรอยกันซึ่งปรากฏให้เห็นในสังคมไทยในปัจจุบัน
ความต้องการที่ชายปรารถนาจากหญิงก็คือ การได้บำรุงบำเรอจากฝ่ายหญิงโดยต้องใช้ร่างกายของตัวเอง ทำให้สามีหรือชายที่ตนรักพึงพอใจ ฉะนั้นหญิงจึงถูกกดขี่ทางเพศมาก จากภาวะของหญิงที่อ่อนแอจึงถูกทารุณทางเพศจากชายมาก
หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์จะมีอาการแพ้ท้องอยู่ไม่เป็นสุข จะดูแลตัวเองมากขึ้นมากกว่าเดิม เพราะนั้นหมายถึงอีกชีวิตหนึ่งที่อยู่ในท้องที่เราจะต้องดูแล นอกจากกิจการงานที่ตนเองรับภาระเป็นประจำอยู่คือภายในบ้าน การหุงหาอาหารรับผิดชอบในครัวเรือนแล้ว ต้องมีภาระที่หนีไม่ได้เป็นภาระที่หนักคือต้องดูแลลูกในภรรค์ที่นับวันก็โตขึ้นเรื่อยๆ ระยะเวลา ๔-๕ วันก็พอทนได้แต่นี้ ๘-๙ เดือน มันเรื่องที่ผู้ไม่เคยทำเลย หรือผู้ชายก็ทำไม่ได้
ยามเมื่อครรภ์แก่และคลอดบุตร เป็นคราวเคราะห์ที่หญิงเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตเป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นอย่างแสนสาหัสและเสี่ยงชีวิตอย่างมาก สตรีบางคนยังไม่ได้เห็นหน้าลูกสุดที่รักที่อุตส่าห์ทนุถนอมมา ตัวเองตัองมาขาดใจเสียชีวิตก่อนก็มีให้เห็นมากมาย บางทีบุตรก็ต้องมาเสียชีวิตในระหว่างคลอดก็มี ก็ยิ่งเพิ่มความทุกข์ทรมานมาให้ผู้ที่เป็นแม่นั้นอีก มันความทุกข์ความปวดร้าวที่เกิดขึ้นแก่บุคคลที่ชื่อว่าสตรีเสียจริง
ในคัมภีร์พระสุตตันปิฎกเล่มที่ ๑๘ แห่งสังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค์ กล่าวไว้ว่า

[๔๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคามที่ตนจะต้อง เสวย เว้นจากบุรุษ ๕ อย่างนี้ ความทุกข์ ๕ อย่างเป็นไฉน คือ มาตุคามใน โลกนี้ เมื่อยังกำลังสาวไปสู่สกุลผัวเว้นจากญาติ อันนี้เป็นความทุกข์แผนกหนึ่ง ของมาตุคามข้อต้นที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ ฯ

[๔๖๓] อีกประการหนึ่ง มาตุคามมีระดู อันนี้เป็นความทุกข์แผนกหนึ่ง ของมาตุคามข้อที่ ๒ ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ ฯ

[๔๖๔] อีกประการหนึ่ง มาตุคามมีครรภ์ อันนี้เป็นความทุกข์แผนก หนึ่งของมาตุคามข้อที่ ๓ ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ

[๔๖๕] อีกประการหนึ่ง มาตุคามคลอดบุตร อันนี้เป็นความทุกข์แผนก หนึ่งของมาตุคามข้อที่ ๔ ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ ฯ

[๔๖๖] อีกประการหนึ่ง มาตุคามเข้าถึงความเป็นหญิงบำเรอของบุรุษ อันนี้เป็นความทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคามที่ ๕ ที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความทุกข์แผนกหนึ่งของมาตุคามที่ตนจะต้องเสวย เว้นจากบุรุษ ๕ อย่างนี้แล ฯ

ชีวิตของลูกผู้หญิง จากหนังสือกากับผ้าเหลือง (หลวงปู่เขียว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น