1.เรื่องของกบเล็กๆ ตัวหนึ่ง |
ครั้งหนึ่งมีกลุ่มของลูกกบตัวเล็กๆกลุ่มหนึ่งได้มาร่วมกันจัดการแข่งขัน
เพื่อจะปีนขึ้นไปยอดเสาไฟฟ้าแรงสูง
มีกลุ่มชนชาวกบมากมายมารอชมและเชียร์การแข่งขันครั้งนี้
การแข่งขันเริ่มขึ้น...
พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีชนชาวกบตัวใดจะเชื่อว่า
เจ้ากบตัวเล็กๆเหล่านั้นจะปีนขึ้นไปจนถึงยอดได้
มีเสียงพูดลอยมาให้ได้ยิน เป็นต้นว่า
"เขาไม่มีทางจะขึ้นไปถึงยอดหรอก มันยากลำบากขนาดนั้น" หรือ
"เขาไม่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จหรอก เสามันสูงขนาดนั้น"
เจ้ากบตัวน้อยๆเหล่านี้ก็เริ่มที่จะร่วงหล่นลงไปทีละตัว ทีละตัว ...
ยกเว้นเจ้าตัวหนึ่งซึ่งยังปีนอย่างมุ่งมั่น สูงขึ้น และ สูงขึ้น
ฝูงกบก็เริ่มส่งเสียงร้องตะโกน "มันยากเกินไป ไม่มีใครทำได้หรอก!"
กบส่วนใหญ่เริ่มเหนื่อยและยอมแพ้...
แต่มีกบตัวหนึ่ง ที่ยังตั้งหน้าตั้งตาปีนสูงขึ้น สูงขึ้น...เจ้าตัวนี้ไม่ยอมแพ้!
เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน กบตัวอื่นๆ ต่างยอมแพ้ที่จะปีนสู่ยอดเสาจนหมดสิ้น
ยกเว้นกบตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ด้วยความพยายามอย่างสุดกำลัง
มันก็สามารถปีนขึ้นสู่ยอดเสาได้
กบทุกๆตัวอยากรู้ว่า เจ้ากบตัวเล็กๆตัวนี้ทำได้อย่างไร?
กบคู่แข่งขันต่างอยากรู้ว่า เจ้ากบเล็กๆตัวนี้ มีพลังในการปีนขึ้นสู่ยอดเสา
อันเป็นเป้าหมายจนประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
เรื่องกลับกลายเป็นว่า...กบผู้ชนะตัวนั้นหูหนวก!!!!
ข้อคิด: จากเรื่องนี้บอกเราว่า อย่าฟังคำพูดในด้านลบ หรือการมองในแง่ลบจากคนอื่น
เพราะเขาเหล่านั้นจะดึงความฝัน ความปรารถนาในหัวใจคุณออกไป
จงจำไว้ว่า ให้ระวังในพลังของคำพูดเสมอ เพราะทุกสิ่งที่เราได้ยิน หรือได้อ่าน
จะมีผลต่อการกระทำของเรา ดังนั้น
จงคิดแต่ในด้านบวกเสมอ และเหนือสิ่งอื่นใด จงหูหนวก เมื่อฝูงชนบอกเราว่า
เราไม่สามารถเติมความฝันของเราให้เป็นจริงได้ เพราะว่า "…เราสามารถทำได้ …"
เรื่องวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาทีเมื่อก่อนปี พ.ศ. 2507 เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า
เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์เราจะวิ่งระยะทางหนึ่งไมล์ (1,609 เมตร ) โดยใช้เวลาน้อยกว่า 4 นาที
ทั้งนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมาประกาศย้ำว่า
นี่คือสิ่งที่เกินขีดความสามารถของร่างกายมนุษย์ไม่มีทางเป็นไปได้
แต่แล้วในวันที่ 6 พฤษภาคม 2507 ประวัติศาสตร์กีฬาโลกก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
นักวิ่งสมัครเล่นชาวอังกฤษ ชื่อ โรเจอร์ แบนนิสเตอร์
วิ่งหนึ่งไมล์ โดยใช้เวลาเพียง 3 นาที 59 วินาที
นิตยสารฟอร์บส์(Forbes) แห่งสหรัฐ ถึงกับประกาศว่า
ความสำเร็จของโรเจอร์ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกีฬาของโลก
แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือ หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ ก็มีคนทำสถิติอย่างเดียวกันได้อีก
และก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาใกล้เคียงกัน จนในปัจจุบันถือเป็นมาตรฐานการวิ่งแข่งขันระยะกลาง
ข้อคิด: ประเด็นที่อยากให้คิด ไม่ใช่เรื่องที่โรเจอร์ทำลายสถิติ
แต่เป็นเรื่องที่มีคนมากมายทำได้เหมือนเขาหลังจากที่เขาทำได้แล้ว ซึ่งหมายความว่า
ข้อจำกัดไม่ได้อยู่ที่ร่างกายของพวกเขาเลย แต่อยู่ที่ความคิดมากกว่า
เมื่อความเชื่อที่ว่า "มันเป็นไปไม่ได้" ได้ถูกลบล้างไปแล้ว
ก็ไม่ยากนักที่ร่างกายจะทำไปตามความคิด
เปลี่ยนจากคำว่า "เราทำไม่ได้" เป็น "เราทำได้"
สรุป ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝันนะครับ จงมุ่งมั่นตั้งใจตะกายฝันนั้นมา
ด้วยความเชื่อมั่นว่า "เราต้องทำได้" แม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรค
หรือคำพูดบั่นทอนกำลังใจมากมายก็ตาม
ก็ฝันเรานี่ครับ ไม่ใช่ฝันเค้าสักหน่อย มาให้ขโมยฝันง่าย ๆ ได้ไง จริงไหม
ที่มา เรื่องแรกจาก fwd mail
เรื่องที่สองจากหนังสือ ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ ของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ