จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ปริญญาทางโลกที่ ควรจะเป็น

    ปริญญาที่ทำประโยชน์ ถ้าจะพูดกันในการศึกษาของทางโลก เราทุกคนส่วนใหญ่ก็จะมีการยอมรับ การยอมรับว่าเรียนจบ อย่างนั้น อย่างนี้ และ ที่ดี คือ การได้ทำงานในสิ่งที่เราได้เรียนมา ความภูมิใจ มันมีขึ้น ต่อ ตนเอง และ คนอื่นๆที่คอยมีส่วนเกี่ยวข้อง ดีใจไปด้วย เมื่อสิ่งที่มนุษย์ในโลกส่วนใหญ่ ได้เติบโตมาด้วยการศึกษา แบบใดก็ตาม ที่จะเรียกว่า ทำให้ชีวิตของตน ดำรงอยู่ได้ ตามภูมิรู้ของตนเอง ชาวนา เรียนรู้ การปลูกข้าว ก็ ไปสู่การดำเนินชีวิต  นักศึกษาเรียนจบทนาย ก็ไปสู่การดำเนินชีวิต แบบ หน้าที่การงานแบบทนาย อะไรก็แล้วแต่ ถ้านำมาใช้จากการเรียนรู้และเอาตัวรอด ถือว่าเป็นการดำเนินชีวิตหมด แม้แต่การมีความรู้เพื่อเพิ่มสิ่งที่ยกระดับตัวเองขึ้น จากคนทั่วไป ในความรู้สึกของตน ว่าสังคมเขามองกันว่าผู้มีการศึกษาอยู่ในฐานะชนชั้นสูง กันเสียอย่างนั้น การศึกษาแบบใดๆก็ตาม ที่นำไปสู่การยกตนเองและการเอาตัวรอด ถ้าเป็นไปด้วยศีลธรรมหรือจะเป็นคุณธรรม ยังเป็นการยอมรับที่เป็นประโยชน์ของตัวเองและสังคมอยู่ เช่น การเป็นแพทย์ ที่จะดำรงตนให้มีหน้าที่ตำแหน่งสูงๆขึ้นอีก โดยการทำหน้าที่ของแพทย์ อย่างดีที่สุด  นักการเมือง ที่จะยกตนให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ก็ต้องทำหน้าที่ เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ อาชีพการศึกษาใดก็แล้วแต่ ถ้า หวังความเจริญของตนเอง และสังคม ในการที่จะได้มาอย่างถูกต้อง ในทางพระเรียกว่า สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ อย่างนี้เราจะเรียกชีวิต ตนเอง ว่า เกิดมาเป็นประโยชน์ ไม่เสียชาติเกิด อย่างนี้ก็เป็น คำตอบ ส่วนหนึ่ง ของปถุชน ในคำถาม ที่เรียกว่า เกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร ก็จะตอบว่า เกิดมาเพื่อทำประโยชน์ ต่อสังคม ต่อตนเองและผู้อื่น อย่างที่จะสามารถให้ความเป็น ปกติสุข หรือให้การพึ่งพาของคนอื่นได้ในการดำเนินชีวิต อย่างที่เราจะคิดว่า ที่เราอยู่มาได้ในปัจจุบันนี้ ก็เพราะการทำประโยชน์ ของคนที่ไม่เห็นแก่ตัว มาเมื่อก่อน จะเรียกว่าบรรพบุรุษก็ได้ ที่นี้ก็ สรุปว่า การศึกษา ที่มีศีลธรรมเท่านั้นที่จะควบคู่ไปกับการทำงาน อย่างเห็นแก่ประโยชน์ ในจุดมุ่งหมายของบทบาทที่ตนได้รับอย่างมีความพอใจ และมีความสุข ในตัวเองและคนอื่น ที่เรียกว่า คนในสังคม นั้นแหละ คือ หัวใจของ การศึกษา และการทำงาน อย่างที่สุด. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น