จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

นิทานสั้นแง่คิดสอนใจ เศรษฐีฟางเส้นเดียว

เศรษฐีฟางเส้นเดียว


     มีชายหนุ่มกำพร้าพ่อแม่และยากจนมาก ไม่ว่าเขาจะขยันทำงานรับจ้างหนักเท่าไรก็ยังยากจนอยู่ วันหนึ่งเขาเข้าไปสวดมนต์ในศาลเจ้าแม่กวนอิมแล้วหลับไป เขาฝันว่าเจ้าแม่กวนอิมมาปรากฏกายต่อหน้าเขาและบอกเขาว่าต่อไปนี้เขาจะโชคดี พอออกจากศาลเจ้าให้เดินไปทางทิศตะวันออก และถ้าหกล้มที่ไหนมือจับอะไรได้ก็ให้ถือไว้แล้วจะมีโชค

 เมื่อชายหนุ่มตื่นขึ้นมาเขารู้สึกปลื้มใจก้มกราบเจ้าแม่กวนอิมแล้วเดินทางออกจากศาลมุ่งไปทางทิศตะวันออก พอเดินๆไปก็สะดุดหินหกล้ม มือแตะพื้นดินมีฟางเส้นหนึ่งติดมือมา เขาก็ถือฟาง     เส้นนั้นเดินไป ระหว่างทางแมลงปอมาเกาะที่มือ เขาจึงผูกแมลงปอกับฟาง แมลงปอก็บินหึ่งๆ ต่อมาเขาพบเด็กเล็กๆยืนร้องไห้ ชายหนุ่มจึงส่งเชือกฟางผูกแมลงปอให้ เด็กชอบใจแมลงปอบิน  หึ่งๆจึงหยุดร้องไห้และถือเชือกฟางผูกแมลงปอไว้ แม่ของเด็กดีใจที่ลูกหยุดร้องไห้ จึงให้ส้มแก่ ชายหนุ่มสามผล ชายหนุ่มเดินต่อไปเห็นหญิงสาวเป็นลมเพราะกระหายน้ำ จึงมอบส้มสามลูกให้ คนใช้ของหญิงสาว คนใช้ของหญิงสาวรู้สึกขอบคุณจึงมอบผ้าไหมให้ชายหนุ่ม 3 ม้วน ชายหนุ่มเดินแบกผ้าไหมสามม้วนไป พอเดินๆไปก็พบซามูไรนั่งอยู่ข้างม้าที่นอนป่วยอยู่ ซามูไรขอแลกม้า  กับผ้าไหม ชายหนุ่มสงสารม้าจึงแลกผ้าไหมให้ไปแล้วจูงม้าไปให้กินน้ำ ม้าก็แข็งแรง ชายหนุ่มขี่ม้าเดินทางต่อไปจนถึงปราสาท ใหญ่แห่งหนึ่งก็ขอเข้าไปพักในปราสาท เศรษฐีเจ้าของปราสาท   เห็นม้ามีลักษณะดีจึงขอซื้อ และให้บุตรสาวนำเงินออกมา เมื่อบุตรสาวนำเงินออกมาและเห็นหน้าชายหนุ่มก็จำได้ว่าเป็นผู้ที่ให้ส้มช่วยชีวิต เจ้าของปราสาทจึงชวนให้ชายหนุ่มอยู่ทำงานด้วย ชายหนุ่มทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เศรษฐีจึงยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย ชายหนุ่มทำงานจนร่ำรวย เป็นเศรษฐี ผู้คนก็ขนานนามชายหนุ่มผู้นี้ว่า เศรษฐีฟางเส้นเดียว

   มีความจริงอยู่บางอย่างที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่มีสิ่งดลบันดาลศักดิ์สิทธิ์ใดมาช่วย ถ้ารอสิ่งเหล่านี้อยู่ มันยังเหมือนว่าเรายอมให้โชคชะตา หรือ พรหมเป็นเจ้าชีวิตเรา ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ควรจะเป็นไป ของมนุษย์เลย หรือ จะรอฤกษยามนี้ก็จะหาความเจริญแท้จริงไม่ได้เลย มันจะทำอะไรก็ต้องถือสิ่งที่ไม่ถูกต้องงมงายเสียเปล่าๆ ที่ควรจะเป็นต้อง ว่า เวลาไหน เราคิดดี เเล้ว เวลานั้นคือดี เวลาไหนเราพร้อมที่สุดในการจะทำอะไร เวลานั้นดี  เวลาไหนสะดวกกาล เวลา ตามฤดู ตามเหตุตามผล ใจมันพร้อม นั้นเวลาดี เราก็จะทำอะไรได้ในสิ่งที่พึ่งตนเอง มากกว่า พึ่งเทพเจ้าบรรดาล เพราะเหตุปัจจัยมันมี ว่า เราทำอะไรที่ดีเเล้ว จิตใจมันดี สิ่งอื่นอำนวย มันก็ดำเนินอะไรๆไปได้ ผลจะเกิดถูกต้องอย่างไร มันก็มาจากเหตุปัจจัยที่ทำมาทั้งหลาย บางอย่างต้องใช้เวลา เหมือนจะได้ข้าวมาหนึ่งไร่ ไว้ขาย มันก็ต้องหาเมล็ดข้าวพันธ์ดี ชาวนารู้วิธีอย่างดี ฤดูกาลปลูกมันสมควร นี้เราก็พร้อมได้ที่จะกระทำการหว่านเมล็ดข้าวลงไป  ต้องใช้เวลาดูเเลนาข้าวพอถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะให้ผล นี้เหตุปัจจัยมันพร้อมที่เริ่มจากความรอบคอบของเราเป็นสำคัญ แล้วเราจะรอโชคชะตาอย่างสิ้นหวังนี้ถือว่า เราหมดศักดิ์ศรี ของ มนุษย์เสียแล้ว
                                                               โดย อุตฺตมสาโร 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น