ยังมีชายผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในป่า ทุก ๆ วันเขาจะเข้าป่าไปหาน้ำผึ้งมาขายหรือแลกเปลี่ยนกับของอื่น ๆ ที่ภายในหมู่บ้าน วันนี้เขาโชคดี เขาสามารถหาน้ำผึ้งจากในป่าได้มากจึงคิดจะนำน้ำผึ้ง เข้าไปขายในเมืองใหญ่ ครั้นเมื่อชายชาวป่าคนนี้เข้าไปถึงในตัวเมือง เขาแลเห็นพระราชวังมีความสวยงามมากสิ่งก่อสร้างทั้งหลายล้วนสีทองอร่ามตา และ ประดับประดาด้วยกระจกแก้วสีต่าง ๆ จึงเดิน เข้าไปดูใกล้ ๆ ทันใดนั้นเอง ทหารก็ออกมาตีฆ้องตีกลองร้องป่าวประกาศ ชายชาวป่าได้ยินเสียงดังก็ตกใจรีบวิ่งหนีกลับบ้าน ระหว่างที่วิ่งหนีกลับบ้านนั้นเขาได้ทำน้ำผึ้งหยดลงบนพื้นทางเดินหนึ่งหยด แมลงวันตัวหนึ่งได้กลิ่นหอมหวานของน้ำผึ้งก็บินมาตอม แมงมุมตัวหนึ่งเห็นแมลงวันก็ย่องเข้าไปจะจับกิน จิ้งจกตัวหนึ่งมาเห็นแมงมุมก็ย่องเข้าไปจะจับแมงมุม แมวตัวหนึ่งเห็นจิ้งจกก็ค่อย ๆ ย่องเข้าไปหมายจะจับจิ้งจกกิน พอดีขณะนั้นสุนัขของพระราชาผ่านมาเห็นแมว สุนัขก็กระโจนเข้ากัดแมว เจ้าของแมวเห็นแมวของตนโดนสุนัขกัดก็โกรธ คว้าไม้มาตีสุนัขของพระราชาจนตาย ด้วยไม่รู้ว่าเป็นสุนัขของใคร มหาดเล็กผู้ดูแลสุนัขของพระราชาก็โกรธ ตรงเข้าตีเจ้าของแมว พ่อค้าและชาวบ้านเห็นเจ้าของแมวโดนมหาดเล็กตีก็เข้าไปห้าม แต่พวกมหาดเล็กเข้าใจผิดคิดว่าพวกชาวบ้านจะรุมทำร้ายตนจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น แล้วการต่อสู้ก็ขยายวงกว้างออกไป ทั้งพ่อค้า มหาดเล็ก และชาวบ้านเข้าต่อสู้กันเป็นจำนวนมาก เสียงการต่อสู้ดังสนั่นจนพระราชาออกมาดู เมื่อชาวบ้านเห็นพระราชาออกมาก็จะเข้าไปร้องทุกข์ แต่พระราชาเข้าใจผิดคิดว่าชาวบ้านถืออาวุธจะมาทำร้ายตนด้วย จึงสั่งให้ทหารออกสู้ทำให้บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากก่อนที่ทุกฝ่ายจะรู้ความจริง
อ้างอิงจาก
เสริมสกุล โทณะวณิก. (2544). รวมนิทานพื้นบ้านไทย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
เรื่องของน้ำผึ้งหยดเดียวนี้ช่างวุ่นวายเหลือเกิน
ตอบลบ