จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

ถามเรื่องราวของพระพุทธเจ้า การประสูติ ดอกบัว ๗ ดอก พูดได้จริงหรือ

พระพุทธเจ้าตอนประสูติเป็นพระโพธิสัตว์ มีดอกบัว ๗ ดอกรองรับจริงหรือ และทรงพูดได้จริงหรือไม่ 
 คำตอบ หากไม่มีกล่าวในนี้คือคำของพระพุทธเจ้า นอกเหนือจากนั้นเติมแต่งมาภายหลัง ดอกบัวรองรับไม่มี 
ทรงพูดได้จริงในขณะนั้น หลังจากนั้นเติบโตเหมือนเด็กทั่วไป ดอกบัว ๗ ดอก เติมเเต่งขึ้นภายหลังโดยแฝงปริศนาธรรมมาเท่านั้น
 
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้อนี้ ข้าพระองค์ได้ฟังมาเฉพาะพระพักตร์
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้จำเอามาแต่ที่เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า

“ ดูก่อนอานนท์! หญิงอื่น ๆ ย่อมนั่งคลอดบ้าง นอนคลอดบ้าง. ส่วนมารดา
แห่งโพธิสัตว์ หาเป็นอย่างนั้นไม่, มารดาแห่งโพธิสัตว์ ย่อม ยืนคลอด
โพธิสัตว์” ดังนี้.

 ฯลฯ “ดูก่อนอานนท์! ในกาลใด โพธิสัตว์ออกมาจากท้องแห่ง
มารดา ในกาลนั้นเทวดาย่อมเข้ารับก่อนส่วนมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมเข้ารับต่อ
ภายหลัง” ดังนี้.

 ฯลฯ “ดูก่อนอานนท์! ในกาลใด โพธิสัตว์ออกมาจากท้องแห่ง
มารดายังไม่ทันถึงแผ่นดินเทพบุตรทั้งสี่ ย่อม รับเอามาวางตรงหน้าแห่งมารดา
ทูลว่าแม่เจ้าจงพอพระทัยเถิด บุตรอันมีศักดาใหญ่ของแม่เจ้า เกิดแล้ว” ดังนี้.
ฯลฯ “ดูก่อนอานนท์! ในกาลใด โพธิสัตว์ออกมาจากท้องแห่งมารดา
ในกาลนั้นเป็นผู้สะอาดหมดจด ไม่เปื้อนด้วยเมือก ไม่เปื้อนด้วยเสมหะ ไม่เปื้อน
ด้วยเลือด ไม่เปื้อนด้วยหนอง ไม่เปื้อนด้วยของไม่สะอาดอย่างใด ๆ เป็นผู้
บริสุทธิ์สะอาดหมดจดมาทีเดียว.เหมือนอย่างว่า แก้วมณีที่วางอยู่บนผ้าเนื้อเกลี้ยง
อันมาแต่แคว้นกาสี, แก้วก็ไม่เปื้อนผ้า ผ้าก็ไม่เปื้อนแก้ว, เพราะเหตุใด,
เพราะเหตุว่ามันเป็นของสะอาดหมดจดทั้งสองอย่าง; ฉันใดก็ฉันนั้น ที่โพธิสัตว์
ออกมาจากท้องแห่งมารดา เป็นผู้สะอาดหมดจด ไม่เปื้อนด้วยเมือก ไม่เปื้อน
ด้วยเสมหะ ไม่เปื้อนด้วยเลือด ไม่เปื้อนด้วยหนอง ไม่เปื้อนด้วยของไม่สะอาด
อย่างใด ๆ เป็นผู้บริสุทธิ์สะอาดหมดจดมาทีเดียว” ดังนี้.

 ฯลฯ “ดูก่อนอานนท์! ในกาลใด โพธิสัตว์ออกมาจากท้องแห่งมารดา
ในกาลนั้น ท่อธารแห่งน้ำสองท่อ ปรากฏจากอากาศ เย็นท่อหนึ่งร้อนท่อหนึ่ง,
อันเขาใช้ในกิจอันเนื่องด้วยน้ำ แก่โพธิสัตว์ และแก่มารดา”. ดังนี้.
ฯลฯ “ดูก่อนอานนท์! โพธิสัตว์ผู้คลอดแล้วเช่นนี้ เหยียบพื้นดิน
ด้วยฝ่าเท้าอันสม่ำเสมอ มีพระพักตร์ทางทิศเหนือ ก้าวไป ๗ ก้าว, มีฉัตร
สีขาวกั้นอยู่ ณ เบื้องบน, ย่อมเหลียวดูทิศทั้งหลาย และกล่าว อาสภิวาจา ว่า

 “เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก, 
 เราเป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งโลก. ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้าย. 
 บัดนี้ ภพใหม่ย่อมไม่มี”. ดังนี้

3 ความคิดเห็น:

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น