จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นิทานสั้นแง่คิดสอนใจ เรื่อง ชีวิต ก็แค่นี้เอง




    นิทานแง่คิดสอนใจ เรื่อง ชีวิต ก็แค่นี้เอง
ชีวิตคือความฝัน ที่เรียกว่าดี ๆ ในโลกมนุษย์มันก็แค่นี้เอง เราลองดูซิว่าในชีวิตจริงของคนเราทุกคนนี้จริงๆแล้วมันต่างอะไรกับความฝันลองอ่าน เรื่องสั้นเรื่องนี้ดู
          ในสมัยราชวงศ์ถัง มีนักศึกษายากจนคนหนึ่งชื่อหลูอิง ซึ่งใด้ไปสอบที่เมืองหลวง แต่ปรากฎว่าสอบตก ในระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน ได้พักค้างแรมที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ขณะอยู่ในโรงเตี๊ยมได้พบกับนักพรตหลือ คนทั้งสองสนทนากันอย่างถูกคอ ครู่หนึ่งต่อมาหลูอิงหวนคิดถึงชะตาชีวิตตนเอง ที่สอบตกทุกปีเกิดอาการถอนใจ นักพรตเห็นดังนั้นจึงถามด้วยความสงสัยว่า เพิ่งจะสนทนากันอยู่ดี ๆ ทำไมจึงถอนใจเล่า? หลูอิงกล่าวว่า อนาคตของผมจบสิ้นแล้วมีอะไรดีล่ะ? แล้วคุณเห็นว่ายังไงถึงเรียกว่าดี? หลูอิงตอบว่า ลูกผู้ชายเกิดมาทั้งทีควรเป็นเจ้าคนนายคน มั่งมีศรีสุข มีชื่อเสียงเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล แบบนี้ถึงจะเรียกว่าดี แต่ผมพยายามแสวงหาชื่อเสียงลาภยศมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็สอบตกทุกปี จนบัดนี้เป็นหนุ่มแล้ว ก็ยังคงจมปลักอยู่กับท้องไร่ท้องนา แล้วอย่างงี้ยังไม่เรียกว่าแย่อีกหรือ?
กล่าวจบก็ทำท่าง่วงเหงาหาวนอนนักพรตหยิบหมอนจากในย่ามส่งให้หลูอิง ใช้หมอนใบนี้หนุนนอนก็จะทำให้คุณมั่งมีศรีสุขสมใจหวังทุกอย่าง ขณะนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมกำลังนึ่งข้าวเหนียวอยู่ หลูอิงคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางพอหัวถึงหมอนก็หลับปุ๋ยทันที ในความฝันเขาได้กลับถึงบ้านแล้วและอีกไม่กี่เดือนต่อมาเขาได้แต่งงานกับสาวสวยในหมู่บ้าน ต่อมาก็สอบได้จอหงวน ตำแหน่งหน้าที่การงานก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ จนได้เป็นแม่ทัพ และได้ไปปราบคนเถื่อนที่ชายแดนได้ชัยชนะ มีความดีความชอบได้เป็นอัครมหาเสนาบดี 10 กว่าปี ต่อมาได้เป็นเจ้าผู้ครองนคร ลูกชายห้าคนก็ได้เป็นขุนนาง มีหลานสิบกว่าคน กระทั่งตนชรามีอายุถึง 80 ปี ก็เสียชีวิต เมื่อหลูอิงตื่นขึ้นมาเห็นข้าวเหนียวที่เจ้าของโรงเตี๊ยมกำลังนึ่งอยู่ยังไม่สุกก็อุทานว่า เป็นความฝันหรือนี่? ท่าทางคล้ายกับว่ายังเสียดายอยู่ นักพรตหัวเราะกล่าวว่า "ที่เรียกว่าดี ๆ ในโลกมนุษย์มันก็แค่นี้เอง" หลูอิงนั่งครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก็กล่าวว่า "สัจธรรมแห่งความเกิดความตาย ได้ลาภเสื่อมลาภ ยากดีมีจน ผมเข้าใจแล้ว ขอบพระคุณที่ให้ความสว่าง" กล่าวจบก็กราบลานักพรตไป
คุณคิดว่านิทานนี้ให้คุณสะดุดคิดอะไรบ้าง อย่างน้อยในเรื่องที่เราแสวงหากันใน ตามภาษาคนในโลกทั่วไปที่เรียกว่าปุถุชน นั้นมีคำตอบในนิทานเรื่องนี้แล้ว คำตอบนั้น คือ โลกธรรม 8 ประการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ

สายฝน แห่งชีวิต ปล่อยความทุกข์ กังวลไหลไปตาม สายน้ำ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยวาง





ใบไม้ร่วงโรย ชีวิตล่วงเลย แต่ใจไม่ร่วงหล่น