คุณริว จิตสัมผัส |
คำถามกวนจิต “ ริว จิตสัมผัส”
เคยได้ยินบ่อยครั้งถึงคำพูดที่ว่า “กรรมเกิดจากการกระทำ” พอมีชื่อเสียงดูเหมือนว่าการกระทำอันเกิดจากการเข้าไปนั่งเป็นหนึ่งในพิธีกรรับเชิญของรายการ คนอวดผี ได้ทำให้ริว จิตสัมผัส หรือชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่า นายปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ ถูกจับจ้องเป็นพิเศษในฐานะคนสื่อวิญญาณ จนเกิดกระแสวิพากษ์ในวงกว้างว่า “จริง” หรือ “แหกตา” โดยเฉพาะโลกอินเทอร์เน็ตที่ตั้งกระทู้จับผิดกันยาวเหยียด
ครั้งแรกที่ได้พบกับชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆ คนนี้คือตอนที่ไปสัมภาษณ์กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ (ในคอลัมน์นี้เช่นกัน) ระหว่างรออยู่ในห้องแต่งตัว ความตกอกตกใจของคนในห้องเกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับเชิญมาเล่าเรื่อง “วิญญาณรักข้ามภพ” เกิดอาการ “ผีเข้า” ทั้งที่ยังไม่มีการถ่ายทำรายการ ริวได้เข้ามาพูดคุยกับผีคนรักเก่าในร่างหญิงสาวถึงเหตุที่ต้องตามเธอมาจนถึงชาติปัจจุบัน บรรยากาศที่หลอนจนขนลุกได้จุดประกายความอยากรู้อยากเห็นในตัวเขาแก่เรา จนนำมาซึ่งการสัมภาษณ์ที่ต้องขึ้นคำเตือนว่า “โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน”
“พื้นเพเดิมของริวอยู่สุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ตอนเด็กทางบ้านชอบไปช่วยงานศาลเจ้า โดยเฉพาะน้าๆ บางคนไปแบกเกี้ยวแห่เจ้า ริวก็ไปบ่อยเพราะในอำเภอมีแค่ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะที่เดียวที่ไปเที่ยวได้ ก็ไปดูเขาเล่นสิงโต เชิดมังกร แต่ทุกครั้งที่ไปจะมีเรื่องแปลกคือเวลามีการประทับทรง เคาะกลอง ริวจะมีอาการตัวเย็นและหายใจไม่ออก แต่พอก้าวออกจากประตูก็หาย กลับเข้าไปก็จะเป็นอีก จนสงสัยว่าเป็นอะไร พอเล่าให้อาก๋งฟัง แกบอกไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตั้งแต่เด็กเวลาอุ้มริวไปที่นั่นก็จะมีอาการแบบนี้ทุกครั้ง เขาคิดว่าริวคงกลัวเสียงกลอง แต่น่าแปลกว่าทำไมถึงกลัวจนตัวเย็น
“ตอน ป.3 มีคนมาเข้าฝันริวแล้วแจ้งพระนามว่าเป็นท่านกวนอู ท่านบอกว่า ‘นับจากนี้ไป เรากับเธอมีภารกิจที่ต้องทำ’ ภาพที่เห็นเป็นแค่พลังงาน ไม่ได้เห็นตัวตน ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่ได้สนใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น เช่น มองเห็นคนว่าจะตาย โดยมีตัวอักษรปรากฏอยู่บนใบหน้าเขา ผ่านไปจนถึง ป.6 อยู่ๆ ก็กินเนื้อสัตว์ไม่ได้ มองอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์แล้วเห็นแต่เลือด เป็นอยู่ 3 วัน เลยหันมากินเจ เริ่มจากกินแต่ข้าวกับผลไม้อยู่ 1 เดือน แล้วพัฒนามากินเจจนถึงทุกวันนี้
“หลังจากวันนั้นตกกลางคืนเป็นเวลา 3 เดือนติดที่ท่านกวนอูพาไปเรียนรู้ก่อนมาทำภารกิจ พอนอนหลับท่านก็จะมาเรียก ริวเห็นภาพตัวเองเดินออกจากร่าง เห็นหมดว่าคนในบ้านทำอะไรอยู่ ท่านพาไปเรียนรู้ชีวิตคน เดือนแรกไปเรียนรู้ชีวิตคนว่าทำไมเกิดมาถึงทุกข์และมีกรรม เปรียบเทียบให้ดูว่าทำไมคนที่นอนป่วยอยู่ตามข้างถนนแต่ไม่ตาย ทำไมขอทานที่เก็บข้าวตามถังขยะกินถึงไม่ป่วยเป็นโรค แต่บางคนร่ำรวยกินอาหารสดใหม่ แต่ป่วยเอาๆ
“ต่อมาท่านพาไปเรียนรู้สิ่งที่คนมองไม่เห็น พาไปยมโลก ให้รู้ว่าสถานที่แห่งกฎแห่งกรรมมีจริง ริวถามท่านว่า คนที่ไม่เห็นจะเชื่อได้อย่างไรว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ท่านถามริวกลับว่า บนโลกคนที่ทำชั่วมีไหม คุกของคนมีจริงไหม ในเมื่อคุกบนโลกมี ทำไมในนรกถึงมีไม่ได้ บนโลกมีกฎอย่างไรในนรกก็มีกฎอย่างนั้น ต่างกันแค่ความยุติธรรม โลกของคนมีความลำเอียง แต่ข้างล่างมีความยุติธรรม ‘สังเกตสิว่าทุกอริยเจ้าสอนให้คนทำความดี ไม่เคยสอนให้คนแบ่งแยกศาสนา มีแต่คนเท่านั้นที่แบ่งแยกกันเอง ในนรกภูมิ ไม่ว่าคนชาติไหน พอตายไปก็ลงมาใช้กรรมที่เดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยก ท่านบอกว่าสิ่งที่แบ่งแยกภาพนรกคือการจดจำ คนไทยจดจำภาพยมบาลว่านุ่งโจงกระเบนขณะที่ฝรั่งมองอีกอย่าง ทุกอย่างขึ้นกับมโนภาพตอนเป็นมนุษย์”
ภาพของนรกที่เห็นเป็นอย่างไร
ภาพของนรกที่แต่ละคนเห็นจะเป็นภาพตามแรงกรรม อย่างคนที่ทำกรรมทางปาก พูดจาให้ร้ายคน ภาพที่ริวเห็นคือตายไปเขาจะถูกทรมานด้วยเครื่องมือทรมานต่างๆ เช่น เครื่องตัดลิ้น ดึงลิ้นออกมาจากปาก ท่านพาริวไปดูคนประพฤติผิดในกาม พาไปดูพระและนักบวชในแต่ละศาสนาที่บวชแล้วเอาศาสนามาแปดเปื้อนเรื่องโลกีย์ ซึ่งถือว่าไม่ให้เกียรติ มีอยู่ขุมหนึ่งซึ่งเป็นที่สำหรับคนประพฤติผิดในกาม ริวเห็นเสาไม้สามต้น คนที่ทำผิดถูกจับให้นั่งพื้น เหยียดขาตรง ผูกแขนเหมือนคนจะคลอดลูกสมัยโบราณ ไม่สวมเสื้อผ้า พอถึงเวลาลงโทษ แรงกรรมที่เขาทำจะกลายเป็นสัตว์แล้วพุ่งไปที่อวัยวะเพศ สัตว์เหล่านั้นจะเข้าไปกัดอวัยวะเพศจนคนนั้นๆ ขาดใจตาย พอตายไปจะมีลมแห่งกรรมพัดให้ฟื้น แล้ววิญญาณสัตว์เหล่านั้นก็จะกลับมาอีก แล้วกัดจนกว่าคนคนนั้นจะชดใช้กรรมหมด เขาจะถูกทำโทษแบบนี้วันละ 500 ครั้ง จนกว่าจะหมดกรรม
ริวถามท่านกวนอูว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นชดใช้กรรมหมดแล้ว ท่านบอกว่า ลองสังเกตดูสิ พระอริยเจ้าไม่ว่าศาสนาไหนจะมีรังสีสีทองอยู่ด้านหลัง เช่นกัน คนชั่วจะมีไอดำอยู่บนหัว สำนึกได้เมื่อไร ไอดำจะจางเป็นสีขาว แปลว่าได้ชดใช้กรรมไปหมดแล้ว
ยืนยันว่าผีมีจริง
ริวไม่ยืนยันว่าผีมีจริง แต่ถามว่าถ้าไม่เชื่อว่าวิญญาณมีจริง มนุษย์เชื่อว่าเราเกิดมาด้วยอายุขัย แล้วคนไม่ตายที่อายุ 80 เหมือนกันหมด บางคนไม่ป่วย แต่ทำไมนอนตายไปเฉยๆ
ในทางการแพทย์คงบอกว่าไหลตาย
งั้นถามแพทย์ว่าอะไรที่ไหลออกไปล่ะ ก็แปลว่ามนุษย์ทุกคนมีพลังงาน เหมือนที่โทรทัศน์มีพลังงาน โทรศัพท์มีพลังงาน พลังงานเหล่านั้นมาจากไหน ถ้าเราไม่เสียบปลั๊กไฟติดไหม แต่ถามว่าเรามองเห็นไฟฟ้าได้ไหม ก็ไม่เห็น แต่เมื่อไหร่มันมาปะทะกับสิ่งเหล่านั้น ก็จะติดเป็นดวงไฟเป็นอะไรได้ เราเรียกว่า พลังงาน แต่ทางพระเรียกว่าวิญญาณ ถามว่าผีกับวิญญาณเหมือนกันไหม ไม่เหมือนวิญญาณทำให้เราได้มาเกิดในกายสังขาร แต่ผีคือหลังจากเราเกิดเป็นคนแล้วเราทำชั่ว ตายไปก็กลายเป็นผี
ผีมีหน้าตาไหม
ไม่มีครับ จะมีหน้าตาก็ต่อเมื่อไปปฏิสนธิในครรภ์มารดาแล้ว ถึงมีกาย มีเนื้อ มีหนัง มีกระดูก ผีเป็นแค่พลังงาน ลักษณะเหมือนลูกไฟกลมๆ เป็นสสารชนิดหนึ่งในโลก
แต่มีความแค้น มีความทรงจำใช่ไหม ดูจากผีที่มาเข้าคนในรายการ คนอวดผี
มันอยู่ที่การจดจำ คนที่ตายไปแล้วเป็นผี แสดงว่าประสบการณ์ที่เจอตอนมีชีวิตเลวร้ายมาก เช่น ถูกฆ่าตายแล้วเขาจดจำภาพของคนฆ่า ด้วยความแค้นพลังงานเหล่านี้จึงมีแรงกรรมอยู่ ต่อให้ไม่เป็นผี แต่เกิดใหม่ เขาก็ยังจะระลึกชาติได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
หลายคนพูดว่า ในเมื่อเขาไม่เห็นเหมือนที่คุณเห็น คุณก็พูดอะไรก็ได้สิ
ริวพูดอะไรก็ได้จริง แต่คุณต้องเช็กด้วยไหมว่าสิ่งที่ริวพูดมีเหตุผลหรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะเห็นหรือไม่ แต่ทุกอย่างที่ริวพูดมีเหตุผล ถ้าริวพาคุณไปทางที่ผิด สมองของคุณก็มี คิดรู้เอาเองว่าจะเชื่อไหม จะทำหรือไม่ทำเป็นเรื่องของคุณ ไม่ใช่มัวแต่เอาปากมานั่งโจมตีคนอื่น อย่างนี้คนดีที่ไหนจะกล้าออกมาพูด ถ้าคิดว่าคุณมีความรอบรู้กว่าที่ริวทำ ทำไมไม่ทำอะไรบ้าง มานั่งด่าทำไม ทำไมไม่ทำให้สังคมสูงขึ้น มัวแต่ด่าคนทำดี ก็เท่ากับว่าคุณผิด เพราะคุณทำร้ายให้คนดีเลือนหายไปจากสังคม
เหมือนจะเจอมาเยอะ
เยอะครับ เจอมาตลอด จนพูดกับนักข่าวว่า “เชื่อไหม สังคมสมัยนี้ เป็นคนดีแต่ไม่มีที่อยู่” เรื่องด่าชาวบ้าน ทำร้ายชาวบ้าน คุณตะโกนสามวันไม่จบ แต่คนที่ทำดี สละชีวิต ช่วยเหลือคน พูดไม่ถึงชั่วโมงคุณก็ลืมแล้ว แล้วคุณยังบอกด้วยว่า “อ๋อ คนนี้ทำเอาหน้า” คนทั้งหลายที่ได้อ่านข้อความนี้ ในเมื่อคุณคิดว่าคุณเป็นคนดี ทำไมไม่เอาตัวคุณขึ้นมาเพื่อทำให้สังคมมันสูงขึ้น แทนที่จะมัวแต่วิพากษ์วิจารณ์ว่าอะไรถูกผิดเท่านั้น นี่แหละที่ทำให้ริวรู้สึกเสียใจ
หรือเขาจะไม่ได้ลบหลู่ เพียงแต่มองว่าสิ่งที่พูดยังไม่ชัดเจนจนเกินจะเชื่อว่ามีอยู่จริง
ตรรกะของมนุษย์นั้นต่างกัน ริวเห็น จำเป็นด้วยหรือว่าคุณต้องเห็น ถ้าริวบอกว่าบ้านริวเป็นแบบนี้ แต่คุณไม่เคยมาบ้านริว ถามว่าคุณจะรู้ไหมว่าบ้านริวเป็นยังไง
อาจจะเชื่อถ้าสามารถทำให้เห็นอย่างชัดเจน
คนสมัยนี้ บางทีเห็นยังบอกว่าไม่เห็นเลย แล้วทำไมริวต้องไปพิสูจน์ตามที่เขาอยากเห็นด้วยล่ะ
พูดอย่างนี้คนที่ฟังก็จะบอกว่าแก้ตัว เพื่อเป็นการพิสูจน์ นัดแถลงข่าวแล้วเรียกผีมาโชว์เลยได้ไหม
ถ้ามาให้เห็นแล้ว คุณก็ถามอีกว่าใช้เทคนิคหรือเปล่า คำว่าเห็น คุณใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานแทนที่จะเชื่อว่าวิญญาณมีหรือไม่มี ทำไมคุณไม่เชื่อในสิ่งที่เป็นเหตุผล มัวมาเถียงเรื่องนี้ทำไม ถามว่ามันทำให้ชีวิตคุณสูงขึ้นไหม
++ ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในเล่ม ++
หาอ่านดูน่ะครับ มีหลายอย่างที่เราจะต้องรู้ จากสิ่งที่ดีๆจากเขาคนนี้ อะไรที่เราฟัง แล้วอ่านแล้ว ถ้าพินิจพิจารณาว่าเป็นเรื่องที่ดี นำมาคิด ปฏิบัติ แล้วทำให้ชีวิตเราเดินทางถูกต้อง ห่างไกลจากอบายแล้วสิ่งนั้นเราควรน้อมเข้ามาใส่ใจ น่ะครับ ผมเป็นแฟนติดตามคุณริว เขาพูดแทรกหลักธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรงตรัสสอนไว้ เรื่องกรรม และอีกหลายสิ่งที่ มีเหตุ มีผล น่าชวนคิด นี้แหละที่ชอบเขาก็ตรงนี้ สิ่งที่ คุณริวตอบคำถาม แต่ล่ะครั้ง หวังว่าทุกคน คงใช้สติ ปัญญา ที่ตนมีอยู่คิดเอาเองน่ะ และ ช่วยเริ่มศึกษา พระพุทธศาสนา กันได้แล้ว มันมีอะไรมากกว่าที่คุณริวพูด เพราะคุณริวก็เสมือนเป็นตัวแทนของศาสนาด้วย คือจะทำให้เรา ละชั่ว สร้างบุญกุศล อย่างไม่ประมาท ขออนุโมทนา ธรรมทาน ที่คุณริวสอน และช่วยผู้คนให้ตาสว่าง พวกเราอนุโมทนาด้วยแล้วกัน.
โดย ชัยวัฒน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ