"คุณนริศโรจน์ เฟื่องระบิล" อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน่า |
#บทความโดย
"คุณนริศโรจน์ เฟื่องระบิล"
อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนติน่า
#จุดเริ่มต้นในการขึ้นไปของในหลวงรัชกาลที่9 #ไม่ใช่ต้องการแค่ให้คนเหล่านั้นมีไฟฟ้าใช้
#แต่พระองค์ต้องการทำให้คนเหล่านั้นมีตัวตน
โดยอดีตท่านทูตได้โพสต์กล่าวว่า....
"ย้อนหลังไป 20 กว่าปี ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลคณะสื่อต่างประเทศที่เป็นแขกของ กต. โดยผมมีหน้าที่ต้องพาคณะสื่อเหล่านี้ไปถ่ายทำตามหมู่บ้านชาวเขาตามดอยต่างๆ เพื่อให้คณะสื่อได้สัมภาษณ์ถึง วิถีชีวิตของพวกเขาที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ผมได้ฟังการสัมภาษณ์ชาวเขาเผ่าต่างๆผ่านสื่อประเทศมานับครั้งไม่ถ้วน !
ประเด็นสำคัญที่ผมจับได้คือ ชาวเขาเหล่านี้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวง ร.๙ ได้ทรงเข้ามาช่วยเหลือให้พวกเขาเลิกทำไร่เลื่อนลอย/ปลูกฝิ่น และปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆทดแทน ถนนหนทางดีขึ้นจนพวกเขานำของออกมาขายได้
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ในหลวง ร.๙ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็น #คนไทย โดยสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่พลเมืองชั้นสองอีกต่อไป
ในหลวง ร.๙ ไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขาแบบสุดโต่งให้เป็นคนเมืองแบบเราๆท่านๆ
แต่ท่านทำให้ชาวเขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นในรูปแบบและวิถีชีวิตของพวกเขาเอง
ในหลวงท่านไม่ได้ไปยัดเยียดความเป็นคนเมืองให้ชาวเขาแต่อย่างใด
ถ้าใครที่เคยสัมผัสการทรงงานของพระองค์ท่านจะรับทราบได้ด้วยหัวใจว่าสิ่งที่ในหลวง ร.๙ ทรงทำนั้นไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรทางการเมืองเลย
ผมเคยพาคณะสื่อต่างประเทศร่วมร้อยคณะแล้วกระมังไปถ่ายทำสารคดีตรงแปลงปลูกสตอเบอรี่พันธ์พระราชทาน / ไร่กาแฟ / ไร่มะคาเดเมีย /แปลงปลูกพืชผักเมืองหนาว /แปลงดอกไม้เมืองหนาว ฯลฯ ในพื้นที่ซึ่งเดิมเคยเป็นไร่ฝิ่น ไร่เลื่อนลอยที่แห้งแล้งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เคยพาคณะสื่อต่างประเทศไปดูแนวรอยต่อพรมแดนไทย-พม่า ตรงดอยตุง ที่ฝั่งไทยพลิกฟื้นจากเขาหัวโล้นเป็นป่าเขียวขจี ในขณะที่ฝั่งพม่ายังเป็นเขาหัวโล้นอยู่
จริงอยู่ที่ในบางพื้นที่ของไทยยังไม่สามารถเป็นไปตามแนวที่ในหลวง ร.๙ ได้ทรงกรุยทางเป็นแนวตัวอย่างให้ได้หมด #เพราะพระองค์ท่านมิใช่รัฐบาล #ไม่ได้มีอำนาจอะไรในมือ
#ท่านเพียงทรงวางรูปแบบแนวทางการพัฒนาให้เท่านั้น
แต่จากการตระเวนไปในหลายพื้นที่ ได้สัมภาษณ์ชาวเขาด้วยตัวเอง ทุกอย่างในภาพรวมมันดีขึ้น แตกต่างขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ตรงนี้ถ้ามีใครเอามากระแนะกระแหนว่า 70 ปีไม่มีอะไรดีขึ้นล่ะก้อ ผมขอเถียงหัวชนฝา เพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตาของผมเอง ได้ยินคำยืนยันจากชาวเขาด้วยหูของผมเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ในหลวง ร.๙ ได้มอบให้ชาวเขานอกเหนือจากการพัฒนาทางด้านเกษตรกรรม นั่นคือ #ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ การได้เป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน เป็น #ราษฎรไทยโดยสมบูรณ์ ที่ชาวเขาภูมิใจ พวกเขามิใช่คนเร่ร่อน ไร้สัญชาติ อีกต่อไป
"แต่พวกเขามีประเทศไทย เป็นพลเมืองไทย และมีที่ดินทำกินเป็นของเขาเอง"
ลูกหลานชาวเขาหลายๆคนได้รับการศึกษามีอาชีพมั่นคง และเป็นพี่น้อง “คนไทย” เหมือนพวกเราทุกคน
มิติตรงนี้ต่างหากที่สำคัญมากที่สุด
การที่จะมีกลุ่มบุคคลใดไปช่วยสานต่องานของในหลวง ร.๙ นั้น เป็นสิ่งที่ดีที่ควรยกย่องสรรเสริญ
แต่การทำดีสานต่อนั้นไม่ใช่การเอามาเปรียบเทียบเพื่อ ดิสเครดิต สิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำมาก่อนล่วงหน้า
การดิสเครดิตโดยเอาจุดเล็กๆจุดเดียวมาตีกินจุดอื่นๆในภาพรวมใหญ่ แบบนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่หวังดี เพื่อหวังให้เกิดความแตกแยกในสังคม
ใครก็ตามที่ทำแบบนั้นแสดงว่ามีจิตใจชั่วร้ายแอบแฝงและไม่หวังดีกับใครทั้งนั้นไม่ว่า “ชาวเขา” หรือ “ชาวเรา”....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ยินดีต้อนรับความคิดเห็นดีๆ ติชมบทความตามพอเหมาะ